กีฬาชักกะเย่อ ซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้านไทยที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งในกีฬาสาธิตในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม โดยมีสถานที่จัดการแข่งขันในกรุงเทพฯ, ชลบุรี และสงขลา กีฬานี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก เนื่องจากสร้างความสนุกสนานและส่งเสริมความสามัคคีในทีม การแข่งขันชักกะเย่อต้องใช้ความสามารถทางร่างกายและความอดทน รวมถึงการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ กีฬาชักกะเย่อของประเทศไทยยังได้รับความสำเร็จในระดับนานาชาติ มีโอกาสแสดงศักยภาพในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้
กีฬาชักกะเย่อเป็นกีฬาที่มีอายุกว่าสองพันปี มีการเล่นในหลากหลายประเทศทั่วโลก เป็นกีฬาที่เน้นการสร้างความสนุกสนานและการทำงานร่วมกันในทีม แม้ว่าเคยถูกบรรจุในการแข่งขันโอลิมปิกในช่วงปี 1900-1920 แต่ต่อมาได้ถูกถอดออกอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตาม กีฬานี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ
การแข่งขันชักกะเย่อแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองทีม แต่ละทีมจะต้องจับปลายเชือกคนละฝั่งและพยายามดึงให้ทีมตรงข้ามเคลื่อนที่ข้ามเส้นกลางสนาม กฎกติกาของการแข่งขันชักกะเย่อไม่ซับซ้อน แต่ต้องอาศัยกลยุทธ์และความพร้อมของผู้เล่นในทีม ทีมที่สามารถดึงเชือกให้ส่วนที่ทำเครื่องหมายของทีมตรงข้ามเคลื่อนผ่านเส้นกลางสนามได้ก่อน จะเป็นฝ่ายชนะในเกมนั้น
กีฬาชักกะเย่อของประเทศไทยได้รับการพัฒนาจนมีความพร้อมในระดับนานาชาติ ทีมชาติไทยได้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับโลกหลายรายการ เช่น ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์และประเทศจีน โดยคว้าเหรียญทองแดงเป็นเกียรติประวัติมาแล้ว การบรรจุกีฬาชักกะเย่อเป็นกีฬาสาธิตในกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการแสดงศักยภาพและการฟื้นฟูกีฬาพื้นบ้านให้กลับมามีบทบาทในการแข่งขันกีฬาอีกครั้ง
นอกจากนี้ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ยังเป็นโอกาสสำคัญในการเผยแพร่กีฬาชักกะเย่อให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ชมและนักกีฬาจำนวนมาก ทำให้กีฬาชักกะเย่อได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและอาจนำไปสู่การพัฒนาและการบรรจุให้เป็นกีฬาที่มีการแข่งขันอย่างเป็นทางการในอนาคต