การนำกีฬาคอร์ฟบอลเข้าสู่ธรรมศาสตร์เกมส์ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขัน แต่ยังแสดงถึงแนวคิดเรื่องความเท่าเทียมและการทำงานร่วมกันเป็นทีม การเล่นกีฬานี้ต้องใช้ความสามารถและความร่วมมือจากผู้เล่นทุกคน โดยไม่คำนึงถึงเพศ ซึ่งทำให้ทุกคนมีโอกาสสำคัญในการพาทีมสู่ชัยชนะ นอกจากนี้ การเริ่มต้นของธรรมศาสตร์ในกีฬานี้ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและสนับสนุนกีฬาชนิดนี้อย่างยั่งยืน
กีฬาคอร์ฟบอลไม่เพียงแค่เป็นการแข่งขันที่เน้นผลแพ้ชนะ มันยังเป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้าใจเรื่องความเท่าเทียมและการทำงานร่วมกัน เป็นกีฬาที่ทุกคนในทีมต้องพึ่งพาอาศัยกันอย่างแท้จริง ผู้เล่นทุกคนมีบทบาทสำคัญในการควบคุมเกม การส่งลูก การยิงประตู และการป้องกัน ทำให้ทุกการกระทำในทีมเป็นหัวใจสำคัญในการพาทีมสู่ความสำเร็จ
หากคุณลองจินตนาการถึงกีฬาที่มีลักษณะคล้ายบาสเกตบอล แต่มีความพิเศษตรงที่ทีมหนึ่งประกอบด้วยนักกีฬาชายและหญิงอย่างละ 4 คน ที่ต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการทำคะแนนบนสนามเดียวกัน กีฬานี้ต้องใช้ทักษะ เทคนิค และไหวพริบในการเอาชนะผู้เล่นทีมตรงข้ามที่มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทำให้ทุกคนสามารถมีบทบาทสำคัญในการนำทีมไปสู่ชัยชนะ ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ทุกคนมีโอกาสแสดงศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่
ธรรมศาสตร์ได้ลงแข่งกีฬาคอร์ฟบอลเป็นปีแรกและประสบความสำเร็จอย่างมาก แม้ว่าเวลาในการเตรียมตัวอาจจะไม่มาก แต่ทีมสามารถเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ทั้งคอร์ฟบอลแบบ 4 คน และ 8 คน อาจารย์ดร.วรัทยา วโรทัย หัวหน้าผู้จัดการทีมกีฬาคอร์ฟบอล จากธรรมศาสตร์ ชื่นชมทีมที่สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ยังมีแผนในการพัฒนาและสนับสนุนกีฬาชนิดนี้อย่างต่อเนื่อง
อาจารย์วรัทยายังกล่าวเสริมว่า ในอนาคตกีฬาคอร์ฟบอลที่ธรรมศาสตร์มีแนวโน้มที่สดใส มหาวิทยาลัยมองว่าจะมีการจัดตั้งชุมนุมคอร์ฟบอล เพื่อให้การสนับสนุนและการพัฒนานักกีฬาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายการรับสมัครนักกีฬาคอร์ฟบอลเพิ่มขึ้น และร่วมมือกับสถาบันอื่น ๆ ในประเทศไทย เพื่อยกระดับกีฬาคอร์ฟบอลให้เป็นที่รู้จักและนิยมมากขึ้นในระดับประเทศ การเริ่มต้นในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการผลักดันกีฬาคอร์ฟบอลให้เติบโตอย่างยั่งยืน และยกระดับกีฬานี้ให้เป็นที่นิยมในวงกว้างมากยิ่งขึ้นในอนาคต