เมื่อช่วงต้นปี 2568 บรรยากาศในเชียงใหม่ยังคงเต็มไปด้วยความคึกคักจากการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผู้คนมากมายเดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด เช่น สะพานนวรัฐและดอยอินทนนท์ ซึ่งประสบกับสภาพอากาศหนาวเย็น ส่งผลให้การจราจรบนถนนหนทางบางเส้นสายติดขัด เนื่องจากผู้คนแห่กันขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวที่ยอดดอย นอกจากนี้ยังมีการเตรียมการแข่งขันกีฬาหลายรายการที่กำลังจะเริ่มขึ้นในภาคเหนือ โดยเฉพาะการแข่งขันบาสเกตบอล 3 × 3 และฟุตบอลอาวุโสที่สนามไร่เยาวเรศ
ในช่วงปลายปีเก่าต้นปีใหม่ เมืองเชียงใหม่ยังคงปกคลุมด้วยอากาศหนาวเย็น ในยามเช้า อุณหภูมิลดลงถึง 1-2 องศาเซลเซียส ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่กันมาสัมผัสความหนาวที่เชียงใหม่ ทั้งบนสะพานนวรัฐและยอดดอยอินทนนท์ จนทำให้การจราจรติดขัดเป็นระยะยาว
ขณะเดียวกัน มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาหลายรายการ เช่น การแข่งขันบาสเกตบอล 3 × 3 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ในวันที่ 5 มกราคม 2568 ซึ่งได้รับความสนใจจากทีมต่างๆ อย่างล้นหลาม คาดว่าจะเต็มจำนวนภายในไม่กี่วัน
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ ก็เตรียมส่งทีมบาสเกตบอลชายเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยครั้งที่ 50 “ธรรมศาสตร์เกมส์” ระหว่างวันที่ 9-18 มกราคม 2568 ขณะที่สโมสรรัตนประภา ดิศวัฒน์ ได้มอบหมายให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญชัย เลิศพิริยะชัยกุล เตรียมทีมช้างพิฆาต เชียงใหม่ เข้าร่วมการแข่งขัน Semi-Pro League 2025
ส่วนสนามไร่เยาวเรศ ได้จัดงานอวยพรปีใหม่ให้กับชาวฟุตบอลอาวุโสในเชียงใหม่ และเตรียมเปิดฉากการแข่งขันฟุตบอลไร่เยาวเรศคัพในวันที่ 11-12 มกราคม 2568 ซึ่งมีทีมฟุตบอลอาวุโสเข้าร่วมถึง 8 ทีม
เหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของกิจกรรมที่เกิดขึ้นในเชียงใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความคึกคักของเมืองที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
จากภาพรวมของกิจกรรมและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเชียงใหม่ เราสามารถเห็นได้ว่าเมืองนี้มีความหลากหลายและความคึกคักตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การแข่งขันกีฬา หรือการพบปะกันของคนในชุมชน การจัดกิจกรรมต่างๆ ไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนานและความสุขให้กับผู้คนเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมท้องถิ่นอีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจคือ การที่เมืองเชียงใหม่สามารถผสมผสานระหว่างการท่องเที่ยวและการกีฬาได้อย่างลงตัว ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์ที่แตกต่างและหลากหลาย
ในอนาคต หากเราสามารถรักษาความสมดุลระหว่างการท่องเที่ยวและการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ เชียงใหม่จะยังคงเป็นเมืองที่น่าอยู่และน่าเยี่ยมชมต่อไป