เมื่อวันที่ 5 มกราคม เวลา 20.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยครอบครัวและผู้บริหารระดับสูงของประเทศ ได้เข้าร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนคัพ 2024 รอบชิงชนะเลิศนัดที่สอง ระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติเวียดนาม ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน การแข่งขันครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากผลจากการแข่งขันนัดแรกทำให้ทีมชาติไทยต้องคว้าชัยชนะด้วยคะแนน 2 ลูกขึ้นไปเพื่อคว้าแชมป์สมัยที่ 8 หรือจะต้องเผชิญกับเวลาพิเศษหากชนะเพียงแค่สกอร์เดียว ส่วนเสมอหรือแพ้จะทำให้พลาดโอกาสคว้าแชมป์ทันที

บรรยากาศการแข่งขันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

ในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา สนามราชมังคลากีฬาสถานเต็มไปด้วยแฟนบอลที่มาร่วมเชียร์ทีมชาติไทยในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนคัพ 2024 สำหรับนัดที่สอง ซึ่งทีมชาติไทยต้องพบกับทีมชาติเวียดนาม โดยมีนายกรัฐมนตรีและครอบครัวได้รับคำเชิญจากนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ นางนวลพรรณ ล่ำซำ เพื่อมาร่วมชมการแข่งขัน

นอกจากนี้ ยังมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มาร่วมรับชมการแข่งขันด้วย นอกจากนี้ยังมีสมาชิกครอบครัวชินวัตรและคุณากรวงศ์ที่มาร่วมเชียร์ทีมชาติไทย รวมถึงหลานชาย น้องวาคิณ ที่มาร่วมชมเกมนี้ด้วย

ผลงานจากนัดแรกที่ผ่านมาทำให้ทีมชาติไทยต้องพยายามอย่างหนักในการคว้าชัยชนะด้วยคะแนน 2 ลูกขึ้นไป เพื่อคว้าแชมป์สมัยที่ 8 หากสามารถทำได้ แต่หากชนะเพียงแค่สกอร์เดียว จะต้องต่อเวลาออกไป ถ้าเสมอหรือแพ้ ทีมชาติไทยจะพลาดโอกาสคว้าแชมป์ทันที

การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการชิงแชมป์เท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังและความสามัคคีของคนไทยที่มาร่วมเชียร์ทีมชาติในวันนี้ ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งประเทศ

บทเรียนและการสะท้อนจากเกมนี้

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนคัพ 2024 รอบชิงชนะเลิศนัดที่สอง ระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติเวียดนาม เป็นมากกว่าเกมฟุตบอล มันเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพลังและความรักที่คนไทยมีต่อทีมชาติ ทั้งในสนามและนอกสนาม การสนับสนุนจากผู้นำประเทศและประชาชนแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อประเทศ

ไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร การที่ทีมชาติไทยได้มาถึงรอบชิงชนะเลิศนี้เองก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีแล้ว และยังเป็นโอกาสให้เราได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของนักกีฬาไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติ การแข่งขันนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนไทยสนใจและมุ่งมั่นในการเล่นฟุตบอลเพื่อนำพาทีมชาติไทยไปสู่ความสำเร็จในอนาคต