ในปี 2567 โลกได้ยินเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจจากหญิงแกร่งชาวไทยนามว่า "แวว" สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบที่อายุ 50 ปี เธอทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 โดยคว้าถึง 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง นอกจากนี้เธอยังเป็นคนแรกของโลกที่สามารถคว้าเหรียญทองในประเภทบุคคลครบทั้งสามประเภท (เซเบอร์, ฟอยล์, เอเป้) ในพาราลิมปิกเกมส์เดียว ด้วยความสำเร็จนี้ เธอจะได้รับรางวัลเงินสดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติรวม 21.6 ล้านบาท
ในเมืองเหนือที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและไร่นา แวว สายสุนีย์ จ๊ะนะ เกิดและเติบโตขึ้นมาในครอบครัวเกษตรกรที่เชียงใหม่ แม้ว่าเธอจะจบการศึกษาเพียงแค่ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 แต่ชีวิตของเธอก็ไม่เคยหยุดนิ่ง เมื่ออายุ 17 ปี แววได้ต่อเนื่องการศึกษาจนจบ มัธยมศึกษาปีที่ 3 และทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมลำพูน แต่ชีวิตของเธอก็พลิกผันเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนระหว่างทางไปทำงาน ส่งผลให้เธอบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป
หลังจากใช้เวลาในโรงพยาบาลนานกว่า 11 เดือน แววเริ่มปรับตัวและค้นพบโอกาสใหม่จากการสนับสนุนของโรงเรียนอาชีวะพระมหาดไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้เธอเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาคนพิการ เธอเลือกเริ่มต้นเส้นทางเป็นนักกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอล และต่อมาเปลี่ยนมาเล่นวีลแชร์ฟันดาบ เธอมีความสามารถและความมุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลก
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แววได้รับรางวัลมากมายจากหลากหลายรายการแข่งขัน เช่น การแข่งขันเวิลด์คัพในประเทศนิวซีแลนด์, อิตาลี, โปแลนด์, ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร จนถึงพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่เธอสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการกีฬาคนพิการ
จากเรื่องราวของแวว เราได้รับแรงบันดาลใจในการเผชิญหน้ากับความยากลำบากในชีวิต เธอแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเราจะพบกับอุปสรรคใดๆ หากเรามีความมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ เราก็สามารถสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ แววเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและสร้างประโยชน์ให้กับตนเองและสังคม