การเลือกตั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ กำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญ หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สิ้นสุดตำแหน่ง โดยการประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม ที่สำนักงานบ้านอัมพวัน เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น. ขณะนี้มีผู้สมัครสองคนที่ประกาศลงชิงตำแหน่ง ได้แก่ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม และนายพิมล ศรีวิกรม์ ซึ่งทั้งสองคนมีภูมิหลังทางการเมืองและเป็นตัวแทนของกลุ่มขั้วอำนาจเก่าและใหม่ในวงการกีฬาไทย
พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ในฐานะรักษาการเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ได้แสดงความเห็นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการกีฬาไทย เขาแนะนำให้ 37 สมาคมที่มีสิทธิ์ลงคะแนนพิจารณาเลือกผู้ที่มีวิสัยทัศน์และมองการณ์ไกล เพื่อประโยชน์ของวงการกีฬาไทยในระยะยาว รวมถึงความสามารถในการสร้างมิตรภาพกับองค์กรกีฬาระดับนานาชาติ เช่น คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ)
พล.อ.วิชญ์ ยังเน้นถึงความสำคัญของการเลือกผู้นำที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้อง และสามารถทำงานอย่างเสียสละเพื่อพัฒนาวงการกีฬาไทย นอกจากนี้ เขายังแสดงความกังวลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในวงการกีฬา อาทิ การเบิกเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาที่ไม่โปร่งใส การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง และการเปลี่ยนแปลงประเภทเครื่องบินเพื่อเอาส่วนต่าง
พล.อ.วิชญ์ ยังกล่าวถึงรายได้และการใช้จ่ายของคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ที่มาจากเงินสนับสนุนของไอโอซีและโอซีเอ ประมาณ 19 ล้านบาทต่อปี โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 13 ล้านบาท ครอบคลุมค่าเดินทาง เบี้ยเลี้ยง และสวัสดิการต่างๆ สำหรับนักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลจะได้รับเงินเดือนตลอดชีวิต
พล.อ.วิชญ์ ตอนอายุ 75 ปี ขอพักผ่อนหลังจากทำหน้าที่เลขาธิการมาอย่างยาวนาน เขาหวังว่าจะมีคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและความทุ่มเทเข้ามาสานต่องานต่อไป เพื่อความก้าวหน้าของวงการกีฬาไทยในอนาคต