โครงการฟีฟ่า ฟอร์เวิร์ด 3.0 ได้นำเสนอโอกาสในการปรับปรุงสนามศุภชลาศัยให้กลับมาใช้งานอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เช่น การเป็นโบราณสถานในอนาคตและการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะกรมพลศึกษาและกรมศิลปากร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดูแลโครงสร้างและประวัติศาสตร์ของสนามแห่งนี้ บทความนี้จะสำรวจความท้าทายและโอกาสในการปรับปรุงสนามศุภชลาศัย
กรมพลศึกษาแสดงความยินดีที่จะสนับสนุนการปรับปรุงสนามศุภชลาศัย แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อจากฝ่ายใด แม้ว่าข่าวสารเกี่ยวกับโครงการนี้จะเผยแพร่ไปแล้ว กรมพลศึกษายังคงใช้พื้นที่และดูแลสนามอยู่ แต่จำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบเนื่องจากสนามศุภชลาศัยมีอายุเกือบ 90 ปี และอาจถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานในอนาคต
การปรับปรุงสนามศุภชลาศัยต้องคำนึงถึงความสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ กรมพลศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาโครงสร้างเดิมของสนาม ในขณะเดียวกันก็ต้องตอบสนองต่อความต้องการทางกีฬาและการใช้งานที่ทันสมัย รวมถึงการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่เสื่อมสภาพ ดังนั้น การปรับปรุงอาจจำกัดอยู่เฉพาะส่วนนอกอาคาร เช่น หลังคา ห้องน้ำ และการตกแต่งภายนอก เพื่อรักษาความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งาน
การปรับปรุงสนามศุภชลาศัยไม่เพียงแค่เป็นเรื่องของการลงทุนทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการพื้นที่ที่อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต ตามคำสั่งศาล สนามศุภชลาศัยจะเป็นทรัพย์สินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำให้กรมพลศึกษาต้องย้ายออก ซึ่งหมายความว่า จะต้องมีการวางแผนใหม่สำหรับการใช้งานพื้นที่กีฬาในอนาคต
กรมพลศึกษาแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการย้ายออก เนื่องจากสนามศุภชลาศัยเป็นสถานที่สำคัญในการจัดกิจกรรมกีฬาต่างๆ ทั้งระดับนักเรียนและระดับชาติ หากไม่มีสนามกีฬาที่เหมาะสมแทนที่ อาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันและการพัฒนาเยาวชน ดังนั้น จำเป็นต้องมีการหารือและวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมและยั่งยืนสำหรับการใช้งานพื้นที่กีฬาในอนาคต