ความยิ่งใหญ่แห่งการแข่งขัน: เปิดฤดูกาลบนแผ่นดินไทย
ประเทศไทยเตรียมต้อนรับการแข่งขัน "โมโตจีพี" สนามแรกของปี 2025 ในระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2568 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีที่สนามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเปิดฤดูกาลการแข่งขันระดับโลก สนามนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน 22 สนามใน 18 ประเทศทั่วโลก
นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ กล่าวว่า การแข่งขันในปีนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพสนามเปิดฤดูกาล แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันนโยบาย Sport Tourism ที่ครอบคลุมหลายมิติ อาทิเช่น การส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ
ความสำเร็จของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย: นักแข่งไทยคนแรกในโมโตจีพี
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า แม้ว่าปีนี้จะมีความท้าทายอยู่บ้างเนื่องจากกรอบเวลาการทำงานที่สั้นลง แต่ด้วยประสบการณ์และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ประเทศไทยพร้อมที่จะจัดการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
นอกจากนี้ แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยยังมีโอกาสได้เห็นนักแข่งไทยคนแรกที่ลงแข่งในรุ่นโมโตจีพี คือ “ก้อง สมเกียรติ จันทรา” ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จในการพัฒนานักกีฬาไทยและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นใหม่
การจำหน่ายบัตรชมการแข่งขัน: ความสนใจที่สูงกว่าเคย
ภายในงานยังได้มีการเปิดจำหน่ายบัตรชมการแข่งขัน "โมโตจีพี" สนามประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่เวลา 15.00 น. ซึ่งบัตรแกรนด์สแตนด์ทำสถิติ Sold Out ภายในเวลาเพียง 2 นาที 55 วินาที สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและความตื่นเต้นของแฟนมอเตอร์สปอร์ตที่มีต่อการแข่งขันในปีนี้
บัตรชมการแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ แกรนด์สแตนด์, ไรเดอร์สแตนด์, แบรนด์สแตนด์ และไซด์สแตนด์ โดยแต่ละประเภทมาพร้อมกับสิทธิพิเศษและของที่ระลึกที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อบัตรยังสามารถชมการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล (Pre-Season Test) ได้ฟรี
อนาคตของมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย: ก้าวไปสู่ศูนย์กลางอาเซียน
การจัดการแข่งขัน "โมโตจีพี" ในปี 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขันประจำปี แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางมอเตอร์สปอร์ตของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต
ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลและภาคเอกชน การแข่งขันนี้จะช่วยสร้างความตื่นเต้นและความสนใจให้กับแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก รวมถึงสร้างรายได้และความเจริญเติบโตให้แก่เศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน