เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญในด้านกีฬา. ทัพนักกีฬาไทยได้สร้างผลงานที่น่าประทับใจและได้ผลสำเร็จในหลายประเภทกีฬา.

ผลงานที่สำเร็จของทัพนักกีฬาไทย

การแข่งเทนนิส

“เทนนิส พาณิภัค” กับเหรียญทองเทควันโด“พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” หรือ “เทนนิส” จอมเตะสาวไทยในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง เริ่มต้นเส้นทางสู่เหรียญทองด้วยการเอาชนะ อูไมมา เอล บูชติ จากโมร็อกโก ในรอบ 16 คน ด้วยคะแนน 2-0 ยก. จากนั้นในรอบ 8 คน เธอเอาชนะ ดุนยา อาลี อบูทาเล็บ จากซาอุดีอาระเบีย ด้วยคะแนน 2-0 ยก และในรอบรองชนะเลิศ เธอชนะ ลีนา สตอยโควิช จากโครเอเชีย ด้วยคะแนน 2-0 ยกฃ. จนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ พบกับ กั๊วะ ฉิง จากจีน ซึ่ง “เทนนิส พาณิภัค” สามารถคว้าชัยชนะ 2-1 ยก คว้าเหรียญทองโอลิมปิกสมัยที่สองติดต่อกัน. นักแบดมินตันชายเดี่ยว “กุลวุฒิ วิทิตศานต์” หรือ “วิว” นักแบดมินตันชายเดี่ยว สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าเหรียญเงินแรกในโอลิมปิก 2024 ให้กับวงการแบดมินตันไทย. เส้นทางของเขาเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด โดยเฉพาะในรอบก่อนรองชนะเลิศและรอบรองชนะเลิศที่ต้องเผชิญกับนักกีฬาชั้นนำจากหลายประเทศทั้งมือ 1 ของโลกจากจีน และมือ 7 ของโลกจากมาเลเซีย. แม้ว่าในรอบชิงชนะเลิศจะพ่ายแพ้ แต่ก็สามารถคว้าเหรียญเงินแห่งประวัติศาสตร์มาได้สำเร็จ ทำให้ความพยายามและความมุ่งมั่นของเขาได้รับการยกย่องอย่างสูง.

การแข่งกีฬายกน้ำหนัก

“ฟ่าง” หรือ “ธีรพงศ์ ศิลาชัย” นักยกน้ำหนักชายรุ่น 61 กิโลกรัม คว้าเหรียญเงินจากการยกน้ำหนักรวม 303 กิโลกรัม. เส้นทางของเขาเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะการแข่งขันกับนักกีฬาจากประเทศที่มีความแข็งแกร่งในกีฬายกน้ำหนัก แต่ด้วยความพยายามและการฝึกซ้อมอย่างหนัก เขาสามารถยืนอยู่บนโพเดียมรับเหรียญเงินได้สำเร็จ. “วีรพล วิชุมา” นักยกน้ำหนักชายรุ่น 73 กิโลกรัม คว้าเหรียญเงินด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม. โดยในระหว่างการแข่งขัน เขาสามารถทำลายสถิติเยาวชนโลกได้ แสดงถึงศักยภาพและความสามารถที่เหนือชั้น. แม้จะต้องเผชิญกับความกดดันและความคาดหวัง แต่เขาสามารถผ่านพ้นและสร้างผลงานที่น่าประทับใจ. “สุรจนา คำเบ้า” นักยกน้ำหนักหญิงรุ่น 49 กิโลกรัม คว้าเหรียญทองแดงจากผลงานที่น่าประทับใจ. เส้นทางของเธอเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะการแข่งขันกับนักกีฬาที่มีประสบการณ์และความสามารถสูง แต่ด้วยความพยายามและการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง เธอสามารถยืนอยู่บนโพเดียมรับเหรียญทองแดงได้สำเร็จ.

การแข่งมวยสากล

“บี” หรือ “จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง” นักมวยสากลหญิงรุ่น 66 กิโลกรัม สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หลังคว้าเหรียญทองแดง จากการผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ. เส้นทางของเธอเต็มไปด้วยการแข่งขันที่เข้มข้น โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับนักมวยจากประเทศที่มีประสบการณ์สูง แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการฝึกซ้อมอย่างหนัก เธอสามารถนำเหรียญรางวัลกลับบ้านได้.นอกจากความสำเร็จด้านเหรียญรางวัล ยังมีเหตุการณ์ที่น่าจดจำจากนักกีฬาไทยในโอลิมปิกครั้งนี้ เช่น “ภูริพล บุญสอน” ลมกรดหนุ่มวัย 18 ปี ที่ลงแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชายครั้งแรกในโอลิมปิก และผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศด้วยเวลา 10.14 วินาทีฃ สร้างความประทับใจให้แฟนกีฬาชาวไทย. “วารีรยา สุขเกษม” นักสเกตบอร์ดหญิงวัย 12 ปี ซึ่งเป็นนักกีฬาไทยที่อายุน้อยที่สุดในโอลิมปิกครั้งนี้ ลงแข่งขันในประเภทสตรีทหญิง และจบอันดับที่ 17 จาก 22 คน สร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย.อย่างไรก็ตาม ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น มีดราม่าเกี่ยวกับชุดพิธีการของนักกีฬาไทยที่จะใช้ในพิธีเปิดโอลิมปิก 2024 โดยชุดดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ทันสมัยและไม่เหมาะสม ทำให้คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยต้องออกมาชี้แจงและยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น.