เป็นเรื่องน่ายินดีที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ.2568 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2568 ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ. การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาไม่ใช่เพียงงานของกระทรวงการเที่ยวและกีฬาเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง และทุกภาคส่วน. ด้านสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข, รวมถึงด้านการท่องเที่ยว, ส่งผลต่อการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย. สิ่งสำคัญการกีฬาเป็นการสร้างมิตรภาพและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ ซึ่งเป็น soft power อีกอย่างของประเทศไทย.
รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการจัดการแข่งขันในทุกมิติอย่างเต็มที่ให้สำเร็จตามเป้าหมาย, สร้างความประทับใจกับนักกีฬา และผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกมิติให้กับประเทศได้ด้วย.
ที่ประชุมรับทราบโครงสร้างคณะกรรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2568 ดังนี้:1. คณะกรรมการสำนักงานเลขานุการและประสานงานระหว่างประเทศ แต่งตั้งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธาน.2. คณะกรรมการบริหารการจัดการแข่งขัน แต่งตั้งรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหาร เป็นประธาน.3. คณะกรรมการฝ่ายสนับสนุนและบริการ แต่งตั้งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน.4. คณะกรรมการฝ่ายเทคนิค แต่งตั้งรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นประธาน.
ที่ประชุมรับทราบชนิดกีฬาจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จำนวน 50 ชนิดกีฬา 569 รายการ และกีฬาสาธิต 3 ชนิดกีฬา. รับทราบชนิดกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ณ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 20 ชนิดกีฬา. รับทราบกรอบงบประมาณและแหล่งงบประมาณดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 จำนวน 2,055,000,000 บาท.
“ประเทศไทยกำหนดจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม 2568 ที่ กรุงเทพมหานคร จ.ชลบุรี และจ.สงขลา และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20 – 26 มกราคม 2569 ณ จ.นครราชสีมา” นายกฯ กล่าว.