กีฬา
ผลักดันมวยไทยสู่ซอฟต์พาวเวอร์ สร้างรายได้กว่า 2.3 พันล้านบาท
2024-11-14
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิมล ศรีวิกรม์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬาอีกครั้ง หลังจากที่คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ภายใต้การนำของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดใหม่ขึ้นมา โดยคณะทำงานส่วนใหญ่ยังคงเป็นชุดเดิมที่เคยทำงานด้านมวยไทยซอฟต์พาวเวอร์มาตั้งแต่ต้นปี 2567
การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดใหม่
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิมล ศรีวิกรม์ ผู้ทรงคุณวุฒิของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งในการประชุมครั้งนั้น ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬาชุดใหม่ขึ้นมา โดยมีคณะทำงานจำนวน 11 คน ซึ่งตนเองได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯด้านกีฬาอีกครั้ง พร้อมทั้งแต่งตั้งให้นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา เป็นรองประธาน และอีก 9 คนเป็นอนุกรรมการ ประกอบด้วย ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), ประธานสภามวยโลก มวยไทย (ดับเบิลยูบีซี), ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวันแชมเปี้ยนชิพ, นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม, นายสมชาย พูลสวัสดิ์, พล.อ.อรชัย บุญสุขจิตเสรี, นายไพฑูรย์ ชุติมากรกุล, นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าฯ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และ นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าฯ กกท.ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ซึ่งทุกคนล้วนเป็นทีมงานมวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์ ชุดเดิมที่จะมาสานต่อการทำงานในปี พ.ศ.2568เป้าหมายการดำเนินงานในปี 2568
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิมล ศรีวิกรม์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนด้านกีฬา กล่าวว่า การทำงานของคณะอนุกรรมการฯด้านกีฬา ยังคงจะเน้นเรื่องของ "มวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์" ซึ่งได้ดำเนินโครงการต่างๆ มาตั้งแต่ต้นปี 2567 โดยมีเป้าหมายเพื่อต่อยอดทุกโครงการให้เกิดประโยชน์สูงขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาองค์ความรู้กีฬามวยไทย, การเพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพของบุคคลในวงการมวยไทย, การแข่งขันมวยไทยเพื่อสร้างกระแสความตื่นตัวและเศรษฐกิจให้ประเทศ, การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์มวยไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ, รับรองมาตรฐานมวยไทยเพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ และกำกับติดตามและประเมินผล ซึ่งมีเป้าหมายดำเนินการมากขึ้นไปอีกในปี พ.ศ.2568 โดยตั้งเป้ามูลค่าทางเศรษฐกิจต้องมากกว่าปี 2567 เกินกว่า 2,300 ล้านบาทการประชุมคณะอนุกรรมการชุดใหม่
ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬาชุดใหม่ ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อวางกรอบต่างๆ ของโครงการ โดยคณะทำงานชุดนี้จะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมมวยไทยให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ และสร้างรายได้ให้กับประเทศมากกว่า 2,300 ล้านบาทในปี 2568