คณะรัฐมนตรีเห็นชอบไทยเป็นเจ้าภาพวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2565 โดยมี 32 ชาติรวมทั้งโลก. ในวันที่ 9 ธันวาคม 2567 ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี. คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปี 2568 ซึ่งเป็นตามที่ FIVB ได้ให้เกียรติ. FIVB พิจารณาไทยมีศักยภาพในทุกด้าน เช่นสนามแข่งขัน บุคลากร และการอำนวยความสะดวก. ประเทศไทยมีแฟนคลับวอลเลย์บอลจำนวนมากและเชียร์อย่างดี.

ความสำคัญของการจัดการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก

ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

ประเทศไทยคาดว่าจะมีผู้ชมประมาณ 1.3 พันล้านคนและเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 8,500 ล้านบาทจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว. รัฐมนตรีว่าการจัดการจะได้รับผลคุ้มค่าแน่นอนและสร้างภาพลักษณ์ดีของประเทศไทย.

สร้างโอกาสสำหรับคนไทย

การจัดการแข่งขันเป็นโอกาสให้คนไทย尤其是กลุ่มที่สนใจกีฬาวอลเลย์บอลชมฝีมือของนักกีฬาระดับโลก. นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนนานาชาติ.

รณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ในการจัดการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เน้นให้มีการรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Heart Event). การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เป็นสมาคมกีฬา นำร่องต้นแบบด้วย.

การจัดการรอบแรกและรอบสุดท้าย

การแข่งขันจะแบ่งเป็น 8 สายและมีการจับสลากแบ่งสาย. สายละ 4 ทีมและรอบแรกจะกระจายไปใน 4 หัวเมืองหลักด้านการท่องเที่ยวและกีฬา. รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะจัดที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก กรุงเทพมหานคร.

การจัดการวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก (VNL) ในปี 2568

สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและ Volleyball World ขอให้งดจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกก่อนเพราะมีความสำคัญมากกว่าและไม่มีเวลาเตรียมงานสำคัญให้ดีที่สุด. แต่ในปี 2569 จะให้ประเทศกลับมาเป็นเจ้าภาพจัดการวอลเลย์บอลเนชั่นลีกอีกครั้ง.