หลังจากความสำเร็จของโอลิมปิกปารีส 2024 ประเทศไทยได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กิจกรรมกีฬาและท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนที่ราชมังคลากีฬาสถาน หรือแมตช์สำคัญระหว่างทีมยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ การแข่งขันเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้แฟนกีฬาตื่นเต้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ในประเทศไทย การขายบัตรเข้าชมฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง และการเดินทางของแฟนบอลชาวไทยไปเชียร์ทีมโปรดที่สนามแข่งขันต่างประเทศ เป็นเครื่องยืนยันถึงความสนใจและความกระตือรือร้นของผู้คนต่อการแข่งขันกีฬา
ในช่วงปลายปี 2567 ประเทศไทยได้รับโอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับโลกหลายรายการ เช่น มวยคู่หยุดโลก บัวขาว vs ปาเกียว ในกลางปี 2568 และการแข่งขันฟุตบอลพิเศษ "เรนวูด ไอคอนส์ ออฟ ฟุตบอล" ณ โรบินส์วูด กอล์ฟ คลับ ในเดือนมีนาคม 2568 รวมถึงการแข่งขันโมโตจีพี 2025 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสนามแรกของฤดูกาล นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีแผนในการจัดกีฬาซีเกมส์ 2025 ภายใต้คอนเซ็ปต์ "กรีนซีเกมส์" เพื่อใส่ใจสิ่งแวดล้อม และกำลังพิจารณาการจัดการแข่งขัน F1 ซึ่งอาจเริ่มในปี 2570 โดยใช้เส้นทางในย่านจตุจักร กรุงเทพฯ
การแข่งขันเหล่านี้ไม่เพียงแค่สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนกีฬา แต่ยังเป็นโอกาสในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย การจัดงานระดับโลกสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน และสนับสนุนการพัฒนาวงการกีฬาของประเทศอย่างยั่งยืน
จากแนวโน้มที่เห็น การแข่งขันกีฬาและการท่องเที่ยวเชิงกีฬาในประเทศไทยกำลังจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คนทั่วโลก การจัดกิจกรรมกีฬาที่หลากหลายและมีมาตรฐานสูง จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางกีฬาและท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาค การท่องเที่ยวเชิงกีฬาไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มคนที่ชอบกีฬาเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมที่สนุกสนานและน่าสนใจ ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าจดจำ