การแข่งขันเพื่อรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตประธานฯ ได้สละตำแหน่งตามธรรมนูญเนื่องจากการพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ขณะนี้ มีผู้ท้าชิงหลายท่านที่กำลังพยายามรวบรวมคะแนนเสียงเพื่อคว้าตำแหน่งดังกล่าว โดยเฉพาะสามแคนดิเดตสำคัญที่ได้รับความสนใจอย่างมาก
ในช่วงเวลาที่อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นฤดูหนาว การแข่งขันเพื่อรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ได้กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจสำหรับวงการกีฬาไทย หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตประธานฯ ได้สละตำแหน่งตามธรรมนูญ เนื่องจากการพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ทำให้เขาต้องสละตำแหน่งประธานฯ ตามกฎของคณะกรรมการโอลิมปิคไทย
ขณะนี้ นายธรรมนูญ หวั่งหลี ในฐานะรองประธานคนที่ 1 ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่รักษาการประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ แต่การแข่งขันเพื่อรับตำแหน่งประธานคนใหม่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น มีผู้ท้าชิงหลายคนที่กำลังพยายามรวบรวมคะแนนเสียงจากนายกสมาคมกีฬาและขั้วอำนาจทางการเมือง เพื่อให้มีคะแนนเสียงเพียงพอในการคว้าชัย
สามแคนดิเดตที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ได้แก่ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย, ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย และ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ซึ่งแต่ละคนมีประสบการณ์และความสามารถที่แตกต่างกัน
กระบวนการเลือกประธานโอลิมปิคคนใหม่นั้น จะเริ่มจาก 37 สมาคมกีฬาสมาชิกของคณะกรรมการโอลิมปิคจะเสนอชื่อผู้แทนเพื่อรับเลือกทำหน้าที่กรรมการบริหารโอลิมปิควาระใหม่ จากนั้นจะมีการโหวตเลือก 23 คนจาก 37 คน เพื่อทำหน้าที่เป็นกรรมการบริหาร รวมกับผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิกสากลชาวไทยและตัวแทนนักกีฬาโอลิมปิกชาวไทย จนครบ 25 คน สุดท้ายจะมีการโหวตเพิ่มเติมเพื่อเลือกผู้ทรงคุณวุฒิอีก 10 คน จนครบ 35 คน เพื่อจัดสรรตำแหน่งและเลือกประธานคนใหม่
หากมีผู้เสนอชื่อแข่งขันกันมากกว่า 1 คน ผู้มีสิทธิ์ออกเสียง 35 คน จะลงคะแนนเลือกตั้งแบบลับแล้วจึงนับคะแนน การเลือกตั้งครั้งนี้กำหนดไว้ภายในเดือนมีนาคม 2568
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการบริหารงานกีฬาในประเทศ การแข่งขันที่เข้มข้นนี้ไม่เพียงแค่เป็นการต่อสู้เพื่อตำแหน่งประธานฯ แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงความปรารถนาของภาคส่วนต่างๆ ที่ต้องการนำพาวงการกีฬาไทยไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้น