การประชุมครั้งสำคัญที่จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ได้เผยให้เห็นถึงแนวทางการทำงานใหม่ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการกำหนดนโยบายที่เน้นการปฏิบัติอย่างจริงจังและการรับฟังเสียงสะท้อนจากเจ้าหน้าที่และพนักงานภายในองค์กร การทำงานแบบเชิงรุกนี้ไม่ใช่เพียงแค่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังหมายถึงการคาดการณ์และเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
นายธนา ไชยประสิทธิ์ เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในองค์กร โดยเฉพาะการประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนที่เคยมีมา เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การเสริมสร้างทักษะและความสามารถของบุคลากรยังถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กร ส่งผลให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่เต็มไปด้วยความร่วมมือและนวัตกรรม
นอกจากการปรับปรุงภายในองค์กรแล้ว การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรภายนอกยังถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยยกระดับวงการกีฬาของประเทศไทย ศ.พิเศษ เจริญ วรรธนะสิน ได้เสนอแนะถึงความสำคัญของการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกรมพลศึกษา ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการบริหารจัดการกีฬาในภาพรวม
การขยายขอบเขตความร่วมมือไปยังระดับนานาชาติยังเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะการประสานงานกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับองค์กรเหล่านี้จะเปิดโอกาสให้ประเทศไทยเข้าถึงทรัพยากรและโครงการสนับสนุนต่าง ๆ ที่จะช่วยยกระดับความสามารถของนักกีฬาไทย
การเข้าถึงกองทุนสนับสนุนต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของนักกีฬาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุนสงเคราะห์โอลิมปิกระหว่างประเทศ (โอลิมปิก โซลิดาริตี้) ซึ่งเป็นแหล่งทุนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการฝึกอบรมและการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาในหลากหลายประเภทกีฬา การประเมินผลงานและความสำเร็จของนักกีฬาจะเป็นปัจจัยหลักที่ใช้ในการพิจารณาการมอบทุน
การดำเนินงานในส่วนนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างหลายภาคส่วน ทั้งในแง่ของการวางแผนและเตรียมความพร้อมสำหรับการขอทุน รวมถึงการติดตามผลและประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับมาจะถูกใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อวงการกีฬาไทย
การเดินหน้าพัฒนาวงการกีฬาของประเทศไทยไม่ใช่เพียงหน้าที่ขององค์กรใดองค์กรหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ภาครัฐ ภาคเอกชน ไปจนถึงประชาชนทั่วไป การสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็งและยั่งยืนจะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว
การประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ชุดใหม่ที่จะจัดขึ้นในเดือนเมษายนนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการวางรากฐานใหม่ให้กับวงการกีฬาไทย โดยมีเป้าหมายร่วมในการสร้างอนาคตที่สดใสสำหรับนักกีฬาและเยาวชนของประเทศ