ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การจัดสรรเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้หยุดชะงัก เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ในการอนุมัติเงิน ทำให้หลายสมาคมกีฬาประสบปัญหาทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมสำหรับซีเกมส์ 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในปลายปีนี้ ส่งผลให้การฝึกซ้อมและการเตรียมตัวของนักกีฬาถูกกระทบอย่างรุนแรง บางสมาคมต้องใช้วิธีการขายทรัพย์สินเพื่อประคองสถานการณ์ ขณะนี้มีการเรียกร้องให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเข้ามาแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว
ในฤดูหนาวของปีที่แล้ว เมื่อ “บิ๊กน้อย” ทนุเกียรติ จันทร์ชุม เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีการพบปัญหาเงินคงค้างจำนวน 1,500 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรตามที่ควรจะเป็น จนถึงขณะนี้ แม้ว่ากรมบัญชีกลางจะระบุว่ากองทุนมีอำนาจอนุมัติเองได้ แต่กระบวนการยังคงล่าช้าเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ในการพิจารณา การเซ็นสัญญาจาก MOU เป็น MOA ทำให้กระบวนการยิ่งมีความซับซ้อนมากขึ้น จนกระทั่งเงินสนับสนุนสำหรับการเตรียมซีเกมส์ 2025 ก็ยังไม่ออก ซึ่งสร้างความกังวลให้กับผู้บริหารหลายสมาคมกีฬา และส่งผลกระทบต่อการเตรียมตัวของนักกีฬาที่จะลงแข่งขันในรายการสำคัญนี้
จากปัญหาดังกล่าว ทำให้บางสมาคมจำเป็นต้องขายทรัพย์สินส่วนตัว เพื่อระดมทุนในการดำเนินงาน เช่น การฝึกซ้อม เบี้ยเลี้ยงนักกีฬา และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นในการเตรียมตัวสำหรับซีเกมส์ ซึ่งหากไม่มีการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของทีมชาติไทยในรายการนี้
ล่าสุด ได้มีการประชุมระหว่างนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบอร์ดกองทุนฯ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หากไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว วงการกีฬาไทยอาจเผชิญกับภาวะที่ยากลำบากในการเตรียมทีมสำหรับซีเกมส์ รวมถึงผลกระทบต่อการพัฒนานักกีฬาในระยะยาว
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการวางแผนและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในภาคการกีฬา ซึ่งจำเป็นต้องมีระบบการอนุมัติและการจัดสรรเงินที่รวดเร็วและโปร่งใส หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของวงการกีฬาไทย รวมถึงความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติ ดังนั้น การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่เร่งด่วนและสำคัญ