ในยุคที่ประเทศไทยกำลังเร่งพัฒนาการกีฬาสู่ระดับนานาชาติ การดำเนินงานของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะภายใต้การนำของ "บิ๊กต้อม" นายธนา ไชยประสิทธิ์ ในฐานะรองประธานและเลขาธิการคนใหม่ เขานำนโยบายเชิงรุกจากประมุขโอลิมปิคไทยคนปัจจุบันมาปรับใช้ เพื่อสร้างความร่วมมือทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังเน้นการทำงานร่วมกับองค์กรกีฬาต่างๆ เช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาชนิดต่างๆ เพื่อผลักดันวงการกีฬาไทยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

การประชุมมอบนโยบายครั้งสำคัญ

ในวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ถนนศรีอยุธยา นายธนา ไชยประสิทธิ์ เป็นประธานการประชุมครั้งแรกหลังได้รับตำแหน่ง โดยมีผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เช่น ศ.พิเศษ เจริญ วรรธนะสิน และ รศ.ดร. สุพิตร สมาหิโต การประชุมนี้มุ่งเน้นการฟังปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย เพื่อนำไปปรับปรุงกระบวนการทำงาน นอกจากนี้ยังวางแผนสร้างความร่วมมือกับองค์กรกีฬาระดับโลก เช่น คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) เพื่อสนับสนุนนักกีฬาไทยผ่านกองทุนสงเคราะห์โอลิมปิก

นายธนาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยอาศัยความรู้และประสบการณ์ของบุคลากรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อปรับปรุงจุดด้อยและเสริมสร้างจุดแข็งขององค์กร ขณะเดียวกันยังมีแผนขยายความร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศ เช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ (มกช.) เพื่อให้เกิดเป้าหมายเดียวกันในการพัฒนาวงการกีฬาของชาติ

สำหรับการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ชุดใหม่จะจัดขึ้นครั้งแรกในเดือนเมษายนนี้ เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานในระยะยาว

จากการประชุมและการกำหนดนโยบายดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในการยกระดับการกีฬาของประเทศ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่สร้างโอกาสให้นักกีฬาไทยได้พัฒนาความสามารถในเวทีระดับโลกเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจให้แก่ประชาชนชาวไทยในฐานะที่เราสามารถก้าวขึ้นไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกีฬาโลกได้อย่างแท้จริง