ในปี 2024 โครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" และ "เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน" ได้สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย โดยผลักดันนักบิดดาวรุ่งหลากหลายคนสู่เวทีระดับโลก ผ่านการแข่งขันนานาชาติและรายการชิงแชมป์ภายในประเทศ อาทิเช่น การแข่งขันโมโตทรี, เอเชีย ทาเลนต์ คัพ, และมาเลเซีย ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ผลงานของเหล่านักบิดเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสามารถทางเทคนิคและความมุ่งมั่นเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงอนาคตที่สดใสของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอีกด้วย
ในฤดูกาล 2024 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ส่งนักบิดดาวรุ่งหลายคนลงแข่งขันในรายการระดับโลก นำโดย “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวไทยคนแรกที่ได้รับโอกาสขึ้นแข่งขันในโมโตจีพี ในขณะที่ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ได้ลงแข่งขันในโมโตทรีแบบเต็มฤดูกาล
นอกจากนี้ ยังมีนักบิดดาวรุ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันเยาวชนชิงแชมป์โลก เช่น “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร ที่ลงแข่งขันในรายการจูเนียร์จีพี และเรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ รวมถึง “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ ที่ทำผลงานคว้าโพเดี้ยมในเอเชีย ทาเลนต์ คัพ และรั้งอันดับ 6 ในตารางคะแนนสะสม
โครงการยังขยายขอบเขตไปยังการแข่งขันในประเทศเพื่อนบ้าน โดยส่งทีมลงแข่งขันในมาเลเซีย ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งทำให้นักบิดไทยได้ประสบการณ์ในการแข่งขันบนสนามที่มีลักษณะคล้ายกับสนามในยุโรป อาทิเช่น “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ที่คว้าแชมป์ประจำปีในรุ่น MSBK 1000 ได้สำเร็จ นอกจากนี้ “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว และ “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ ยังคว้าชัยชนะในการแข่งขัน Suzuka 4 Hours Endurance ที่ญี่ปุ่น
ผลงานเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" และ "เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน" ที่ไม่เพียงแค่ผลักดันนักบิดไทยสู่เวทีระดับโลกเท่านั้น แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอีกด้วย
จากในฐานะผู้สังเกตการณ์ ผมมองว่า โครงการนี้ไม่ได้เพียงแค่สร้างนักบิดที่มีฝีมือเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนที่สนใจในวงการมอเตอร์สปอร์ต เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ฝึกฝนและพัฒนาตนเอง เพื่อก้าวขึ้นสู่เวทีระดับโลกในอนาคต หวังว่าผลงานที่ยอดเยี่ยมของนักบิดเหล่านี้จะทำให้วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้อย่างต่อเนื่อง